บันทึกอนุทินครั้งที่ 3
วิชา
การจัดประสบการศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
เวลาเรียน วันอังคาร
เวลา15:00 – 17:30 น. เรียนวันที่ 20 ม.ค.2558
วันพฤหัสบดี เวลา 15:00 – 16:40 น. เรียนวันที่ 22 ม.ค.2558
ครูผู้สอน อาจารย์
ว่าที่ ร.ต. กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
ความรู้ที่ได้รับ
เรียนวันที่ 20 ม.ค.2558
การจัดประสบการณ์ความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-ศิลปะคือ
งานช่างฝีมือเป็นงานที่มนุษย์ใช้สติปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความประณีต
วิจิตบรรจง ฉะนั้น งานศิลปะจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นผลงานที่มนุษย์สร้างขึ้นมาใหม่
-ศิลปะคือ
ความงาม (ทางกาย ทางใจ)
รูปทรง การแสดงออก ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความงามและความพึงพอใจ
-ศิลปะคือ
-Art หมายถึง มาจากภาษาลาดิน ว่า Ars ทักษะ หรือความชำนาญ
หรือความสามารถพิเศษ
-ศิลปะในภาษาไทย
มาจากภาษาสันสกฤษว่า ศิลปะ
-ภาษาบาลีว่าลิปป
มีความหมายว่า ฝีมืออันยอดเยี่ยม
ปรัชญาศิลปศึกษา
-มุ่งสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
-เป็นเครื่องมือในการแสดงออก
และใช้ความคิดสร้างสรรค์
-ให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างสรรค์งาน
-เน้นความไวในการรับรู้อารมณ์
ความคิดจากสิ่งที่มองเห็น
-ความรู้สึกที่มีอยู่เบื้องหลังผลงาน
-สนับสนุนให้เรียนรู้ ด้วยการค้นคว้า
ทดลองสิ่งใหม่ๆ
-นำไปพัฒนาชีวิตด้านอื่นๆได้
ความสำคัญของศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-ตอบสนองความต้องการของเด็กปฐมวัย
-ชอบวาดรูป ขีดๆ เขียนๆ
-เด็กมีความคิด
จินตนาการ
-เด็กถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด
ที่บางครั้งไม่อาจพูดหรืออธิบายได้
-เด็กต้องการ
การสนับสนุนของผู้ใหญ่
-เด็กต้องการกำลังใจ
การสร้างความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจ
ความสำคัญของการจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-เป็นพื้นฐานทางการศึกษาที่สำคัญสำหรับเด็กปฐมวัยด้านร่างกาย
อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
-ช่วยจัดสรรประสบการณ์ที่มีผลต่อการเรียนรู้ให้กว้างมากขึ้น
-ช่วยพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคล
-ช่วยส่งเสริม / กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับศิลปะสร้างสรรค์
ทฤษฏีพัฒนาการ
พัฒนาการทางศิลปะของโลเวนเฟลด์
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์
-ทฤษฏีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด Guilford
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของสติปัญญา
-เน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ -ความมีเหตุผล -การแก้ปัญหา
ความสามารถของสมอง แบ่งออกเป็น 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
เกี่ยวกับข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อที่เป็นการคิด
สองรับข้อมูลเข้าไปคิดพิจารณา 4 ลักษณะ ภาพ
สัญลักษณ์ ภาษา พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีการคิด
แสดงถึงลักษณะการทำงานของสมองใน 5 ลักษณะ
-การรู้จัก การเข้าใจ -การจำ -การคิดแบบอเนกนัย -การคิดแบบเอกนัย -การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
แสดงถึงผลที่ได้จากการทำงานของสมองจากมิติที่ 1 และมิติที่ 2
มี 6 ลักษณะ หน่วย จำพวก ความสัมพันธ์ ระบบ การแปลงรูป การประยุกต์
สรุป เป็นทฤษฏีเกี่ยวกับโครงสร้างทางสติปัญญา ทำให้ทราบถึงความสามารถของสมองที่แตกต่างกันถึง 120 ความสามารถตามแบบจำลองโครงสร้างทางสติปัญญาในลักษณะ 3 มิติ คือ เนื้อหา 4 มิติ วิธีการคิด 5 มิติ และผลทางการคิด 6 มิติ รวมความสามารถทางความคิดสร้างสรรค์ด้วย
คือ วิธีคิดแบบอเนกนัย เป็นการคิดหลายทิศทาง หลายแง่มุม คิดได้กว้าง ซึ่งลักษณะการคิดนี้
จะนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่แปลกใหม่
ทฤษฏีความคิดสร้างสรรค์ของทอร์แรนซ์ Torrance
นักจิตวิทยา
และนักการศึกษาชาวอเมริกัน เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ว่า
-ความคล่องแคล่วในการคิด -ความยืดหยุ่นในการคิด -ความริเริ่มในการคิด
แบ่งลำดับความคิดสร้างสรรค์ เป็น 5 ขั้น
1.
ขั้นการค้นพบความจริง เป็นขั้นเริ่มต้น ค้นพบสาเหตุ
2.
ขั้นการค้นพบปัญหา เป็นขั้นที่สามารถคิดได้และเกิดความเข้าใจปัญหา
3.
ขั้นการตั้งสมมติฐาน พยายามแก้ไขปัญหา
หาทางออกโดยการตั้งสมมติฐาน
4.
ขั้นการค้นพบคำตอบ เป็นการทดลองสมมติฐาน
เพื่อหาคำตอบ
5.
ขั้นตอบรับผลจากการค้นพบทดสอบสมมติฐานและสรุปสมมติฐานเพื่อการแก้ปัญหาหรือทางออกที่ดีที่สุด
สรุป เป็นกระบวนการของความรู้สึกไวต่อปัญหา
หรือสิ่งที่ขาดหายไป แล้วเกิดความพยายามในการสร้างแนวคิด ตั้งสมมติฐาน ทดสอบสมติฐาน และเผยแพร่ผลที่ได้ให้ผู้อื่นรับรู้ ขั้นความคิดสร้างสรรค์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับขั้นการแก้ปัญหา
ทางวิทยาศาสตร์ จึงเรียกว่า กระบวนการแก้ปัญหาอย่าสร้างสรรค์
ทฤษฏีความรู้สองลักษณะ (สมอง สองซีก)
เป็นทฤษฏีที่ได้รับความสนใจ
เกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์
การทำงานของสมองสองซีก ต่างกัน
- สมองซีกซ้าย ทำงานส่วนความคิดที่เป็นเหตุผล
-สมองซีกขวา ทำงานส่วนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ทฤษฏีการคิดสองลักษณะ
แพทย์หญิงกมลพรรณ
ชีวพันธ์ศรี กล่าวว่า คนเรามีสมอง 2 ซีก
-สมองซีกขวา
ซึ่งเป็นส่วนของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาได้มากในช่วง 4-7 ปี
-สมองซีกซ้าย เป็นส่วนของความคิดที่มีเหตุผล
พัฒนาในช่วง 9-12 ปี เจริญเติบโตช่วง11-13 ปี
แนวคิดเกี่ยวกับสมองสองซีกได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์และพัฒนาการจัดการศึกษา
คือ ผู้เรียนได้เรียนรู้และทำกิจกรรมแบบบูรณาการ
มีการเรียนรูแบบวัฏจักรการเรียนรู้ หรือ 4 MAT และมีการทำกิจกรรมที่หลากหลาย
ทฤษฏีพหุปัญญาของการ์ดเนอร์ Gardner
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาการศึกษา
ชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสติปัญญา ผู้คิดค้นทฤษฏีพหุปัญญา
ทฤษฏีพหุปัญญาจำแนกความสามารถเอาไว้ 9 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านดนตรี ความสามารรถด้านกีฬาและการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ความสามารถด้านมนุษย์สัมพันธ์ ความสามารถด้าธรรมชาติศึกษา ความสามารถในการคิดพลิกแพลง ความสามารถด้านตรรกะวิทยาและคณิตศาสตร์ ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ ความสามารถด้านจิตวิเคราะห์
ลักษณะสำคัญของทฤษฏีพหุปัญญา
ปัญญามีลักษณะเฉพาะด้าน ทุกคนมีปัญญาแต่ละด้าน
ทั้ง 9 ด้านมากน้อยแตกต่างกัน
และสามารถพัฒนาให้สูลขึ้นได้ และปัญญาต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้
และมีความหลากหลาย
ทฤษฏีโอศา Auto
เดวิส Davis และ ซัลลิแวน Sullivan
ความคิดสร้างสรรค์นั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
และสามารถพัฒนาได้ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ตามรูปแบบโอศา มีลำดับการพัฒนา 4 ขั้นตอน
-ขั้นตอนที่ 1 ความคิดตระหนัก
การพัฒนาปรีชาญาณ
การรู้จักและเข้าใจตนเอง การมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
-ขั้นตอนที่ 2 ความเข้าใจ
มีความรู้เนื้อหาในเรื่องบุคลิกภาพ เทคนิควิธีการความคิดสร้างสรรค์
-ขั้นตอนที่ 3 เทคนิควิธี
การระดมสมอง
การคิดเชิงเปรียบเทียบ การฝึกจินตนาการ เทคนิคในการฝึกความคิด
-ขั้นตอนที่ 4 การตระหนักในความจริงของสิ่งต่างๆ
เปิดกว้างรับประสบการณ์ต่างๆมีความคิดริเริ่มและผลิตผลงานด้วยตนเอง
พัฒนาการทางศิลปะ
เคลล็อก Kellogg ศึกษางานขีดๆเขียนๆของเด็กปฐมวัยและจำแนกได้เป็น 4 ขั้นตอน
-ขั้นที่ 1 ขั้นขีดเขี่ย Placement
Stage เด็กวัย 2 ขวบ
ขีดๆเขียนๆตามธรรมชาติ
เป็นเส้นตรงบ้างโค้งบ้าง โดยปราศาจากการควบคุม
-ขั้นที่ 2 ขั้นเขียนเป็นรูปร่าง Shape
Stage เด็กวัย 3 ขวบ
ขีดๆเขียนเป็นรูปร่างมากขึ้น
เขียนวงกลมได้ ควบคุมมือกับตาให้สัมพันธ์กันมากขึ้น
-ขั้นที่ 3 ขั้นรู้จักออกแบบ Design
Stage เด็กวัย 4 ขวบ
ขีดๆเขียนๆที่เป็นรูปร่างเข้าด้วยกัน
วาดโรงเส้นหรือวาดสี่เหลี่ยมได้
-ขั้นที่ 4 ขั้นการวาดแสดงเป็นภาพ Pictorial
Staga เด็กวัย 5 ขวบขึ้นไป
เริ่มแยกแยะวัสดุที่เหมือนกันได้
รับรู้ความเป็นจริง ควบคุมการขีดเขียนได้ วาดสามเหลี่ยมได้
พัฒนาการด้านร่างกาย
กีเซลล์และคอร์บีน
สรุปพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัยตามลักษณะพฤติกรรมทางการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก
ด้านการตัด
อายุ 3-4 ปี
ตัดกระดาษเป็นชิ้นส่วนเล็กได้
อายุ 4-5 ปี
ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
อายุ 5-6 ปี
ตัดกระดาษตามเส้นโค้งหรือรูปต่างๆได้
การขีดเขียน
อายุ 3-4 ปี
เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี เขียนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
การพับ
อายุ 3-4 ปี
พับและพับสันกระดาษสองทบตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี พับและพับสันกระดาษสามทบตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี พับและพับสันกระดาษได้คล่องแคล่ว
การวาด
อายุ 3-4 ปี วาดภาพคนได้
อายุ 4-5 ปี
วาดส่วนประกอบต่างๆของคนได้
อายุ 5-6 ปี วาดเป็นมิติได้
เรียน 22 ม.ค. 2558
ทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
โดยการวาดมือของตนเองใส่ลงในกระดาษให้วาดตั้งแต่ 1ภาพขึ้นไป เวลาระบายสี ระบายสีของเส้นตัด
โดยที่สีห้ามซ้ำกัน ระบายสีทั้งภายนอกมือและภาพในมือ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-การนำความรู้ไปศึกษา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ที่มีให้มากขึ้นและนำไปปรับใช้ในการสอนศิลปะสร้างสรรค์กับเด็กปฐมวัย
-การให้เด็กได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์
โดยการที่เด็กได้ใช้ร่างกายของตนเองเป็นส่วนประกอบของภาพเด็กจะมีความรู้สึกประทับใจในผลงานของตนเองและรู้สึกว่าผลงานของตนเองมีคุณค่า
-การให้เด็กได้ระบายสีภาพที่วาดด้วยเองเองโดยที่ครูปล่อยให้เด็กได้ใช้จินตนาการของตนเอง
เด็กจะเกิดความเป็นอิสระ
-การที่ครูเดินดูเด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์นั้นจะทำให้เด็กอุ่นใจ
เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือเด็กก็จะเจอครูอยู่ข้างๆ
การประเมินการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
ตั้งใจเรียนและศึกษาทั้งในชีสที่ครูแจกและการอธิบายหน้าชั้นเรียนของครู และทำกิจกรรมในวันพฤหัสได้เป็นอย่างดี
ทั้งการวาดภาพระบาย และการนำเสนอภาพที่วาดได้เป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาเรียบร้อย
มีความตั้งใจเรียนและฟังขณะที่ครูบรรยาย อาจจะมีพูดกันบ้างเล็กน้อยเป็นบางครั้ง
เพื่อนๆทำกิจกรรมวาดภาพและระบายสีได้สวยงามทุกคน และมีความสุขในการทำกิจกรรม
ประเมินครูผู้สอน
-เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
มีความพร้อมที่จะสอนเด็ก พูดจาชัดเจนทำให้นักศึกษาเข้าใจได้เป็นอย่างดี
อธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมให้นักศึกษาได้เข้าใจ และสำหรับกิจกรรมวาดภาพระบายสี
ครูก็มีการแนะนำแนวทางในการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี